NAPASSTUDIO NAPASSTUDIO

มาถ่ายพรีเวดดิ้งสวยๆที่ Mont Saint Michel กัน

ชี้เป้า Overseas location wedding shoots
/by
ทักทายกับพิราบน้อยและอากาศเย็นสบายในช่วงเช้า Location : Mont Saint-Michel How to : ถ้าขับรถจากปารีส ใช้เวลา 4 ชม. ขับสบายๆ ทางดี จ่ายค่าทางด่วน2-3 ครั้ง ประมาณ 6 ยูโร/ครั้ง เมื่อมาถึงจะเข้าไม่ได้ (ยกเว้นพักโรงแรมที่นั่น ค่าโรงแรมถูกมาก นี่พัก 2 คืน จ่ายไปคนละ 2,000 บ.) โทรขอ code จากโรงแรมก็จะขับไปได้ถึงวิหารเลย สบายไม่ต้องเดิน หรือไม่พักที่นี่ก็มีที่จอดรถบริเวณรอบทางเข้าเสียเงินแล้วเดินมาขึ้นรถ bus บริการฟรีตั้งแต่ 8 โมงถึงเที่ยงคืนในฤดูร้อน นั่งไปถึงวิหารเลยเช่นกัน มาดูวิวรอบด้านที่ถ่ายจากด้านบนตัวโบสถ์ ก็สวยมากๆ แสงยามเช้าคือดีที่สุด^^ กรณีที่ 2 นั่งรถไฟ TGV จากในเมืองสถานี Gare Montparnasse มาลงที่เมือง Rennes สถานี "Rennes" 2.30 ชม. แล้วนั่งรถโค้ชตรงสถานีรถไฟ ต่อไปที่ Mont Saint-Michel อีก 1 ชม. เมื่อมาถึงก็ใช้ bus ฟรีที่บอกไว้ นั่งไปถึงวิหารก็ประมาณอีก 10 นาที Fee : 9 ยูโร Open : วิหาร 09.00-19.30 น. (ช่วง 2 พ.ค.-31 ส.ค.) และ 08.30-20.00 น. (ช่วง 1ก.ย.- 30 เม.ย. แสงยามพระอาทิตย์ตกดินก็ดีไปอีกแบบนะ บรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยการซ้อนรูปของคู่รักกับโบส์ Mont Saint Michel...

นพัสสตูดิโอพาเที่ยวแลนด์มาร์คถ่ายรูปสวยๆรอบกรุงโรม

ชี้เป้า Overseas location wedding shoots
/by
ขอต้อนรับสู่การเดินเล่นถ่ายรูป Honeymoon รอบกรุงโรมค่า คนชอบเที่ยวก็ลองอ่านดูนะ และถ้าดูแล้วอยากถ่ายรูปกับเรา ก็ติดต่อได้ที่ Line :@napasstudio หรือ โทร. 089-1641995 ถามมานะ... ถ้าภาพของเราคือคำตอบของคุณ^^เริ่มที่แรกด้วย..Colosseum ข้างๆโคลอสเซียมมีประตูชัยด้วยนะ จูบกันตรงนี้เวลาประอาทิตย์ตกดินก็สวยงามทีเดียว ขอกล่าวถึงกรุงโรมสักหน่อย...โรม แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยมีแม่น้ํา Tiber คั่นกลาง ด้านซ้าย จะเป็นท่ีต้ังของนครรัฐวาติกัน และขวาจะมีแลน์มาร์คท่ีต้องชม เช่น โคลอสเซียม (Colosseum) วิหารแพนธีออน (Pantheon) นํ้าพุเทรวี (Trevi fountain) และบันไดสเปน (Spanish steps) ใครเดินไหว มีเวลาทั้งวันแนะนำให้ลองเดินดูนะ มันดีมาก ชมวิวเมืองไปแบบชิวๆเลย (เมื่อยเท้ามาก ควรพกยานวดไปด้วย)Colosseum How to : Metro B สายสีนํ้าเงิน ลงท่ีสถานี “Colosseo” ในอดีตเป็นสถานท่ีจัดแสดงการประลองการต่อสู้ระหว่าง gladiator (คน) ด้วยกันเองหรือระหว่างคนกับสัตว์ก็มี โดย Colosseum ถือเป็นอัฒจันทร์ที่ ใหญ่ท่ีสุดในโลกและมีการคาดการณ์ว่าสามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คนเลยทีเดียว How much: ทั้งโคลอสเซียม โรมันฟอรัมและเนิน Palatine ใช้ตั๋วเดียวกัน (ตั๋ว 2 วัน นับจากวันเริ่มใช) ผู้ใหญ่ ราคา 12 ยูโร Open: เข้าได้ต้ังแต่ช่วง 8.30 น. ไปจนถึงก่อนพระอาทิตย์ตก 1 ชม. เนินตรงนี้ถ่ายรูปคู่กับโคลอสเซียม ได้แบบคนไม่เยอะดีค่า ควรเดินไล่ลงมาแบบนี้นะ เปิด Google map แล้วเริ่มที่ บันไดสเปน>>น้ำพุเทรวี่>>แพนธีออน >>Marcello Theater>>แผ่นหิน Mouth of Truth>>Keyhole>>Piramid station แล้วนั่งรถไฟไป โคลอสเซียมจะดีกว่าSpanish Steps How to : Metro A สีแดง ลงที่ “Spagna” แค่สถานฑูตสเปนที่เคยต้ังอยู่ตรงน้ีมาก่อน บันได้เลยชื่อนี้ ย่านนี้มีแบรนด์ดังมากมาย ซึ่งเหมาะแก่การมาช้อปิ้ง และมีคาเฟ่ เกร็กโก ร้านกาแฟเก่าแก่ท่ีสุดของโรมTrevi Fountain How to : Metro A สีแดง ลงท่ี “Barberini” แล้วไปตามป้ายได้เลย หรือเดินต่อมาจากบันไดสเปนก็ได้ ไม่ไกลน้ําพุแห่งนี้เป็น ผลงานการออกแบบของ Nicola Salvi ตรงกลางเป็นเทพเจ้าเนปจูน ส่วนรูปปั้น 2 ข้างซ้ายขวาเป็นตัวแทนของ ความมีสุขภาพดี (good health) และ ความอุดมสมบูรณ์ (fertility) ใครๆมาที่นี่ก็ต้องมาโยนเหรียญเค้าให้โยน เหรียญด้วยมือขวาข้ามไหล่ซ้าย และอธิษฐานให้ได้กลับมาอีกคร้ัง ก็จะได้มาอีก (ป.ล.แอดมินโยนไปหลายรอบเลยจ้า)Patheon How to : Metro A สีแดง ลงท่ี “Barberini” เช่นเดียวกับการไปน้ําพุเทรวี มหาวิหารแพนธีออน มีอายุกว่า 2,000 ปี เป็นวิหารทรงกระบอก ไม่มีเสาค้ำกลางคอยรับน้ําหนักทั้งท่ีมีขนาดใหญ่โต มีหลังคาเป็น โดมโค้งมนและมีช่องวงกลมขนาดใหญ่ตรงกลางให้แสงผ่านเข้ามา เรียกช่องน้ีว่า “โอคูลุส” (Oculus) โอคูลุส แปลว่า ตา ซึ่งหมายถึงสัญลักษณ์ของตาจากสวรรค์ มีความเชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าโดยถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นนาฬิกาแดดและช้ประกอบพิธีสำหรับพระมหากษัตริย์ เดินๆไปก็หวานกันได้อีกค่า^^ ส่องรูกุญแจบ้านคนอื่นแล้ววิวดีขนาดนี้เลยหรอ.. Keyhole in Rome โลเคชั่นส่องดูวิวโบสถ์อันน่ามหัศจรรย์ เพราะเราต้องมองลอดผ่านรูกุญแจของบ้านหลังนึงเข้าไป และถ้าอยากเก็บภาพมาฝากคนอื่น มือถือถ่ายไม่ได้นะ ต้องกล้องเท่านั้น!!! มันสวยอ่ะ ต้องเห็นด้วยตาแล้วจะอิน How to : สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด คือ “Piramid” แล้วเปิด google map มาเลย จะต้องเดินเข้าตรอกซอยหลายโค้ง มาจนถึงถนน “via di Porta Lavernale” เดินมาจนสุด จะเห็นคนต่อแถวยาวๆ หน้าประตูเขียวๆ แล้วพยายามถ่ายรูปและส่องผ่านรูกุญแจนั่นล่ะ ใช่เลยMouth of Truth ที่ Bocca della verita แผ่นหินสลักรูปเทพเจ้าแห่งแม่น้ำ ใช้เป็นเครื่องจับโกหกของคนในยุคกลางเป็นต้นมา โดยให้เอามือสอดเข้าไปวางที่ปากของหิน ถ้าใครพูดโกหก มีความเชื่อว่าหินสลักนี้จะกัดมือขาด!!! How to : เดินมาจาก Keyhole in rome มาที่ถนน Piazza della Bocca della Verità แผ่นหินนี้แขวนอยู่ที่โบส์ Santa maria ถ้าไปเที่ยวช่วงเดือนเมษายน จะมีดอกไม้สวยๆริมทาง และร่วงโรยตามพื้นมากมาย ให้ถ่ายรูปสวยๆได้อีก มาถึงอิตาลีแล้วไม่ถ่ายรูปกับ Vespa ไม่คูลนะ^^ มาเดินข้ามแม่น้ำ Tiber ก็จะเจอวิวดีๆ แวะถ่ายรูปได้ และเดินต่ออีกนิดก็จะถึงนครวาติกัน... เดินลงมาใต้ดูวิวใต้สะพานก็สวยอ่ะ ทุกมุมจากตรงนี้ไปก็สวยหมด และสุดท้ายก็มาถึงวาติกันมิวเซียมล่ะค่า... Vatican Museum How to : Metro A สีแดง ลงได้2 สถานี คือ “Ottaviano” หรือ “Cipro” เดินต่อ อีก 10 นาที เป็นพิพิธภัณฑ์ท่ีใหญ่และมีศิลปะล้ำค่าสูงที่สุดในโลก เพราะเป็นคอมเพล็กซ์ท่ีเก็บงานศิลปะที่ได้รับการสะสมมาหลายศตวรรษ จาก Roman Catholic Church นอกจากนี้บางส่วนของคอมเพล็กซ์นี้ ยังเป็นที่อยู่ของ โป๊ป มีทั้งห้องทํางาน ห้องนอน ห้องรับรองแขก และส่วนที่ดังที่สุดของพิพิธภัณฑ์นี้ คือภาพ Creation of Adam ของไมเคิล แองเจลโล(เงยหน้าไปมองด้านบนจะเห็นพระเจ้าเอื้อมมือมาหาอดัม)...

นพัสสตูดิโอพาชี้เป้ามุมถ่ายรูปพรีเวดดิ้งสุดฮิตใน Paris

ชี้เป้า Overseas location wedding shoots
/by
ครั้งนี้เราจะนำเสนอสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งในปารีสที่เดินทางง่ายๆโดยใช้ Metro ที่ลงปุ๊ป ก็ถึงปั๊บ พร้อมเตรียมแอคท่ารอได้เลย....คนชอบเที่ยวตามมากันนะ และถ้าสนใจถ่ายรูปกับเราก็ติดต่อที่ได้ Line : @napasstudio หรือ โทร. 089-1641995 ถามมานะ... ถ้าภาพของเราคือคำตอบของคุณ^^ มาเริ่มที่โลเคชั่นแรกกันเลย...Eiffel Tower Location : หอไอเฟล ฝั่งสวน Trocadero How to : Metro สาย 6 หรือสาย9 ลงสถานี Trocadero Fee : ตั๋วขึ้นบันไดไปชั้นสอง 7 ยูโร หรือขึ้นลิฟต์ 11 ยูโร แต่ถ้าขึ้นไปขั้นบนสุด 17 ยูโร Open : 09.30-23.00 น.(ฤดูร้อน 09.00-00.00 น.)Note : หอไอเฟลถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าโลกในปี ค.ศ. 1889 และเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีการปฏิวัติฝรั่งเศส โดยตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "Gustave Eiffel" ที่ปัจจุบันเป็นแลนมาร์คสำคัญของการท่องเที่ยวในปารีส เพราะเปรียบว่า หากมาปารีสแล้วไม่ได้ไปหอไอเฟลถือว่ายังมาไม่ถึงนะ!!! โดยหอคอยเป็นโครงเหล็กที่มีความสูงรวม 324 เมตรจากพื้นดิน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแซน บนพื้นที่ของสวน Champ de Mars และเราสามารถเลือกขึ้นไปชมวิวสุดแสนโรแมนติกโดยเฉพาะแสงสียามค่ำคืนด้านบนได้ โดยการเดิน (ถ้าไหว!!!) ก็แค่ 1,665 ขั้นเท่านั้นเอง... จะไปถึงชั้น 1 และ2 ส่วนชั้นบนสุดจะต้องใช้ลิฟต์ขึ้นไป( It's a must!) พลาดไม่ได้ เพราะคือสุดยอดวิวพาโนรามาที่ดีที่สุดในโลกเลย จะแอคไหนก็ดูดีไปหมดเลย.. แต่ขอย้ำต้องมาเช้าๆนะ !!! เพราะคู่รักจากทั่วทุกโลกมาถ่ายตรงนี้กัน หลบมุมกล้องกันดีๆล่ะ ภาพนกบินแห่งความภาคภูมิใจของเรา^^ ที่ทีมงานเราวิ่งไล่เจ้านกพิราบกันเป็นสิบๆรอบ...คิดถึงโมเม้นต์ตอนนั้นจัง ไม่เหนื่อย สนุกดีกับ "ภารกิจวิ่งไล่นก" ไปต่อกันที่ ...Notre Dame de Paris Location : Notre Dame de Paris How to : นั่งรถไฟ RER ลงสถานี Saint-Michel-Notre-Dame (สาย B,C และ Metro สาย4) Fee : ขึ้นหอคอย 8.5 ยูโร หรือชมภายในโบสถ์และห้องเก็บสมบัติ เข้าฟรี!!! Open : โบสถ์ 08.00-18.45 น. ,วันเสารอาทิตย์เปิดถึง 19.45 น. Note : โบสถ์นอเธอร์ดาม เป็นโบสถ์คททอลิคใหญ่ประจำกรุงปารีส ที่สร้างตามแบบศิลปะโกธิค และมีอายุกว่า 850 ปี อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนทั่วไปรู้จักที่นี่ เพราะเป็นหนึ่งในฉากของนิยายคลาสสิคดังอย่างคนคร่อมเเห่งนอทเทอร์ดาม  โดยภายในมีรูปปั้นและภาพจิตรกรรมที่สวยงามเกี่ยวกับพระแม่มารี (คำว่า Notre Dame แปลว่า Our Lady ) อันหมายถึง พระแม่มารี อีกทั้งยังประดับด้วยกระจกสีโบราณ และสุสานใต้ดิน ส่วนภายนอกโบสถ์ จะมี หลักกิโลเมตรที่ 0 หรือที่เรียกกันว่า “point zero” ในการเริ่มต้นวัดระยะทางของถนนต่างจากปารีสไปยังเมืองต่างๆมาตั้งแต่สมัยโบราณ  ที่ว่ากันว่า ใครที่ได้มาเหยียบ “point zero” แล้วอธิษฐานขอให้ได้กลับมาปารีส ก็จะสมหวังได้กลับมาทุกรายค่า มุมในสวนข้างๆ ก็สวย ดูสิโพสต์ท่ากันสนุกสนาน แล้วเดินไปอีกหน่อยจะมีสะพาน ที่ไปนั่งเล่น ถ่ายรูปย้อนมาก็จะเห็นโบสถ์ด้วย จากนั้นมาที่สะพาน Pont Alexandre III กันดีกว่า Location : สะพาน Pont Alexandre III How to : Metro สถานี Invalides (สาย 8,13 และ RER สาย C)Note : สะพาน AlexandreIII เป็นสะพานหรูหราที่ตั้งชื่เป็นเกียตริแด่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย ในการทำสนธิสัญญาพัธมิตรระหว่าง 2 ประเทศในปี ค.ศ. 1892 ที่สร้างตามแบบสถาปัตยกรรม Art Nouveau โดยมีจุดเด่นคือ สะพานโค้งแห่งนี้ไม่มีคานรับน้ำหนัก และบนสะพานจะประดับด้วยโคมไฟอันสวยงาม รูปปั้นเทพธิดา และม้าบินสีทองบนยอดเสาหินถ่วงน้ำหนักขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ที่เชิงสะพานทั้ง 2 ฝั่ง เป็นเจ้าสาวที่สวยมาก และเป๊ะปังที่สุดเลย... ไปคะ จูงมือกันเดิน...สายๆคนจะเยอะเช่นกัน แล้วคู่รักโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นชอบมาถ่ายตรงนี้ มุมต่อไปแวะมาที่ Eiffel Tower ตรงสะพานสถานีรถไฟ Bir-Hakeim  Location : ใต้สะพานสถานีรถไฟ Bir-Hakeim How to : Metro สถานี Bir-Hakeim สาย 6 วิวนี้ก็ที่สุดเลยเพราะ มีทั้งหอไอเฟล แม่น้ำ และสะพาน โพสต์ท่าได้ทั้งแบบชิคๆ หรือหวานๆก็ได้ และที่สุดท้ายของบทความนี้ คือ คือ คือ...... Musee du Louvre นั่นเอง^^Location : Musee du Louvre How to : Metro สถานี Palaisn Royal-Musee de Louvre (สาย 1และ7) หรือสถานี Louvre-Rivoli (สาย 1) Fee : 15...