N A P A S
S T U D I O
ขอต้อนรับสู่การเดินเล่นถ่ายรูป Honeymoon รอบกรุงโรมค่า คนชอบเที่ยวก็ลองอ่านดูนะ และถ้าดูแล้วอยากถ่ายรูปกับเรา ก็ติดต่อได้ที่ Line :@napasstudio หรือ โทร. 089-1641995 ถามมานะ… ถ้าภาพของเราคือคำตอบของคุณ^^
เริ่มที่แรกด้วย..Colosseum
ข้างๆโคลอสเซียมมีประตูชัยด้วยนะ จูบกันตรงนี้เวลาประอาทิตย์ตกดินก็สวยงามทีเดียว
ขอกล่าวถึงกรุงโรมสักหน่อย…โรม แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยมีแม่น้ํา Tiber คั่นกลาง ด้านซ้าย จะเป็นท่ีต้ังของนครรัฐวาติกัน และขวาจะมีแลน์มาร์คท่ีต้องชม เช่น โคลอสเซียม (Colosseum) วิหารแพนธีออน (Pantheon) นํ้าพุเทรวี (Trevi fountain) และบันไดสเปน (Spanish steps) ใครเดินไหว มีเวลาทั้งวันแนะนำให้ลองเดินดูนะ มันดีมาก ชมวิวเมืองไปแบบชิวๆเลย (เมื่อยเท้ามาก ควรพกยานวดไปด้วย)
Colosseum
How to : Metro B สายสีนํ้าเงิน ลงท่ีสถานี “Colosseo”
ในอดีตเป็นสถานท่ีจัดแสดงการประลองการต่อสู้ระหว่าง gladiator (คน) ด้วยกันเองหรือระหว่างคนกับสัตว์ก็มี โดย Colosseum ถือเป็นอัฒจันทร์ที่ ใหญ่ท่ีสุดในโลกและมีการคาดการณ์ว่าสามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คนเลยทีเดียว
How much: ทั้งโคลอสเซียม โรมันฟอรัมและเนิน Palatine ใช้ตั๋วเดียวกัน (ตั๋ว 2 วัน นับจากวันเริ่มใช) ผู้ใหญ่ ราคา 12 ยูโร
Open: เข้าได้ต้ังแต่ช่วง 8.30 น. ไปจนถึงก่อนพระอาทิตย์ตก 1 ชม.
เนินตรงนี้ถ่ายรูปคู่กับโคลอสเซียม ได้แบบคนไม่เยอะดีค่า
ควรเดินไล่ลงมาแบบนี้นะ เปิด Google map แล้วเริ่มที่
บันไดสเปน>>น้ำพุเทรวี่>>แพนธีออน >>Marcello Theater>>แผ่นหิน Mouth of Truth>>Keyhole>>Piramid station แล้วนั่งรถไฟไป โคลอสเซียมจะดีกว่า
Spanish Steps
How to : Metro A สีแดง ลงที่ “Spagna”
แค่สถานฑูตสเปนที่เคยต้ังอยู่ตรงน้ีมาก่อน บันได้เลยชื่อนี้ ย่านนี้มีแบรนด์ดังมากมาย ซึ่งเหมาะแก่การมาช้อปิ้ง และมีคาเฟ่ เกร็กโก ร้านกาแฟเก่าแก่ท่ีสุดของโรม
Trevi Fountain
How to : Metro A สีแดง ลงท่ี “Barberini” แล้วไปตามป้ายได้เลย หรือเดินต่อมาจากบันไดสเปนก็ได้ ไม่ไกล
น้ําพุแห่งนี้เป็น ผลงานการออกแบบของ Nicola Salvi ตรงกลางเป็นเทพเจ้าเนปจูน ส่วนรูปปั้น 2 ข้างซ้ายขวาเป็นตัวแทนของ ความมีสุขภาพดี (good health) และ ความอุดมสมบูรณ์ (fertility) ใครๆมาที่นี่ก็ต้องมาโยนเหรียญเค้าให้โยน เหรียญด้วยมือขวาข้ามไหล่ซ้าย และอธิษฐานให้ได้กลับมาอีกคร้ัง ก็จะได้มาอีก
(ป.ล.แอดมินโยนไปหลายรอบเลยจ้า)
Patheon
How to : Metro A สีแดง ลงท่ี “Barberini” เช่นเดียวกับการไปน้ําพุเทรวี
มหาวิหารแพนธีออน มีอายุกว่า 2,000 ปี เป็นวิหารทรงกระบอก ไม่มีเสาค้ำกลางคอยรับน้ําหนักทั้งท่ีมีขนาดใหญ่โต มีหลังคาเป็น โดมโค้งมนและมีช่องวงกลมขนาดใหญ่ตรงกลางให้แสงผ่านเข้ามา เรียกช่องน้ีว่า “โอคูลุส” (Oculus) โอคูลุส แปลว่า ตา ซึ่งหมายถึงสัญลักษณ์ของตาจากสวรรค์ มีความเชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าโดยถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นนาฬิกาแดดและช้ประกอบพิธีสำหรับพระมหากษัตริย์
เดินๆไปก็หวานกันได้อีกค่า^^
ส่องรูกุญแจบ้านคนอื่นแล้ววิวดีขนาดนี้เลยหรอ..
Keyhole in Rome
โลเคชั่นส่องดูวิวโบสถ์อันน่ามหัศจรรย์ เพราะเราต้องมองลอดผ่านรูกุญแจของบ้านหลังนึงเข้าไป และถ้าอยากเก็บภาพมาฝากคนอื่น มือถือถ่ายไม่ได้นะ ต้องกล้องเท่านั้น!!! มันสวยอ่ะ ต้องเห็นด้วยตาแล้วจะอิน
How to : สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด คือ “Piramid” แล้วเปิด google map มาเลย จะต้องเดินเข้าตรอกซอยหลายโค้ง มาจนถึงถนน “via di Porta Lavernale” เดินมาจนสุด จะเห็นคนต่อแถวยาวๆ หน้าประตูเขียวๆ แล้วพยายามถ่ายรูปและส่องผ่านรูกุญแจนั่นล่ะ ใช่เลย
Mouth of Truth ที่ Bocca della verita
แผ่นหินสลักรูปเทพเจ้าแห่งแม่น้ำ ใช้เป็นเครื่องจับโกหกของคนในยุคกลางเป็นต้นมา โดยให้เอามือสอดเข้าไปวางที่ปากของหิน ถ้าใครพูดโกหก มีความเชื่อว่าหินสลักนี้จะกัดมือขาด!!!
How to : เดินมาจาก Keyhole in rome มาที่ถนน Piazza della Bocca della Verità แผ่นหินนี้แขวนอยู่ที่โบส์ Santa maria
ถ้าไปเที่ยวช่วงเดือนเมษายน จะมีดอกไม้สวยๆริมทาง และร่วงโรยตามพื้นมากมาย ให้ถ่ายรูปสวยๆได้อีก
มาถึงอิตาลีแล้วไม่ถ่ายรูปกับ Vespa ไม่คูลนะ^^
มาเดินข้ามแม่น้ำ Tiber ก็จะเจอวิวดีๆ แวะถ่ายรูปได้ และเดินต่ออีกนิดก็จะถึงนครวาติกัน…
เดินลงมาใต้ดูวิวใต้สะพานก็สวยอ่ะ
ทุกมุมจากตรงนี้ไปก็สวยหมด
และสุดท้ายก็มาถึงวาติกันมิวเซียมล่ะค่า…
Vatican Museum
How to : Metro A สีแดง ลงได้2 สถานี คือ “Ottaviano” หรือ “Cipro” เดินต่อ อีก 10 นาที
เป็นพิพิธภัณฑ์ท่ีใหญ่และมีศิลปะล้ำค่าสูงที่สุดในโลก เพราะเป็นคอมเพล็กซ์ท่ีเก็บงานศิลปะที่ได้รับการสะสมมาหลายศตวรรษ จาก Roman Catholic Church นอกจากนี้บางส่วนของคอมเพล็กซ์นี้ ยังเป็นที่อยู่ของ โป๊ป มีทั้งห้องทํางาน ห้องนอน ห้องรับรองแขก และส่วนที่ดังที่สุดของพิพิธภัณฑ์นี้ คือภาพ Creation of Adam ของไมเคิล แองเจลโล(เงยหน้าไปมองด้านบนจะเห็นพระเจ้าเอื้อมมือมาหาอดัม) ที่อยู่ในส่วนของ Sistine Chapel นั่นเอง นอกจากนี้ บนไดวนตรงทางออก ก็สวยมากมาย
Open :
1. เปิดวันจันทร์ – เสาร์ เคาท์เตอร์ขายตั๋ว 9.00-16.00 น์ ปิดให้เข้าชมเวลา 18.00 น. (ต้องออกจากพิพิธภัณฑ์ครึ่งชั่วโมงก่อนเวลาปิดแสดง)
2 .ปิดวันอาทิตย์(ยกเว้นวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนที่ฟรีค่าเข้าระหว่าง9.00-12.30น.)
How much : 16 ยูโร
แล้วก็ไปเดินชมข้างในกันเลย แต่สตูดิโอขอพักไว้เพียงเท่านี้นะ เพื่อนๆลองเข้ามาชมกันเองนะ โลเคชั่นถ่ายรูปด้านในคงไม่ไหว เพราะติดคนเยอะมากกกกกกก
ปิดท้ายกรุงโรม ขอเป็นภาพนี้…เพราะขอกราบขอบคุณสปอนเซอร์ใจดีที่พา นพัสสตูดิโอไปสู่โลกกว้าง เก็บภาพบบรรยายสวยๆ ทริปฮันนีมูนดีๆของคุณส้มและนำโชคค่า^^